
ทำดอกไม้อย่างไรให้สวย หลายๆคนถามว่าทำดอกไม้อย่างให้สวย? คำถามนี้ฟังดูเหมือนจะตอบง่าย แต่ถ้าจะตอบแบบละเอียดคงยากอยู่เหมือนกันเพราะคำว่า"สวย"ในสายตาแต่ละคนไม่เหมือนกันแน่ แต่เอาเป็นว่าขอตอบแบบกลางๆแล้วกัน ก่อนอื่นขอปูถึงที่ที่ไปของการทำดอกไม้ประดิษฐ์ด้วยดินไทยหรือดินญี่ปุ่น(สุดแท้แต่จะเรียก) คือในสมัยก่อนการดอกไม้ชนิดมีการทำมานานหลายสิบปีแล้ว เริ่มจากอาจารย์ในยุคบุกเบิกนั้นท่านใช้แป้งขนมปังผสมกาวลาเท็กซ์ใส่วาสลีนเล็กน้อยนำมานวดให้เข้ากัน ใส่สีตามต้องการ ก็ออกมาเป็น "แป้งขนมปังสำหรับปั้น" แล้วก็ปั้นเป็นสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตา ต้นกล้วย ดอกกุหลาบ และอื่นๆ แต่ก็ไม่มากนัก การปั้นแบบนี้มีข้อเสียมากคือ ดอกไม้ที่ได้จะมีลักษณะแข็งมากและเปราะแตกหักง่ายมาก เก็บสักพักนึงก็แตกร้าว ในยุคต่อมาประมาณสิบที่แล้วได้ ก็มีคนคิดสูตร"ดินไทย"ขึ้นมา(ในสมัยเริ่มมีดินญี่ปุ่นมาจำหน่ายในเมืองไทยแล้ว) ทำจากแป้งบาง ทาวค่ำบาง ผสมกาวลาเท็กซ์แบบพิเศษ ทำให้สูตรดินแบบนี้มีลักษณะที่ดีขึ้น ใกล้เคียงกับดินญี่ปุ่นมากกว่าก่อน ชิ้นงานที่ได้ก็มีความนิ่มมาขึ้น ไม่แตกหักง่ายเหมือนก่อน เก็บดินไว้ได้นานขึ้น และก็ได้พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือได้เป็นดินที่มีคุณสมบัติดีมากๆ(บางยี่ห้อนะ) เวลาทำดอกไม้แทบไม่ต้องผสมดินญี่ปุ่นเลยก็ทำดอกไม้ได้ มีความนุ่มนวล กลีบดอกและใบจับงอได้ไม่แตกหัก เก็บไว้ก็ยังคงสภาพเดิมอยู่ได้ แมลงไม่กิน เพนส์สีง่าย สวยงาม สำหรับคนที่คิดจะทำดอกไม้ดินญี่ปุ่น,ดินไทย หรือทำอยู่แล้ว ก่อนอื่นคงต้องมีใจรักในงานประดิษฐ์แบบนี้ก่อนเป็นลำดับแรก และยิ่งมีความชอบดอกไม้ก็ยิ่งมีแรงผลักดันให้ทำดอกไม้ได้สวยขึ้น การปั้นดอกไม้จากดินญี่ปุ่นในเมืองไทย แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1. การทำดอกไม้"แบบแฟนซี" คือการทำดอกไม้แบบนี้มักจะเน้น ลวดลาย สีสรรฉูดฉาด คลึงแบบย้วยๆ เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก แม้ว่าสีและลายของดอกไม้นั้นจะไม่มีจริงในธรรมชาติก็ตาม สำหรับคนที่ชอบทำแบบนี้ก็ง่ายหน่อย ไม่ต้องซีเรียส ว่าจะเหมือนหรือไม่เหมือนของจริง ทำให้สวยงาม และสีสดๆก็พอ แต่ถ้าถามถึงเรื่องการตลาด ก็ฟันธงได้เลยว่าแบบนี้ขายดีสุด แต่ในทางกลับกัน แบบค่าแรงของคนทำส่งก็น้อยตามไปด้วย แต่จะเน้นปริมาณเป็นสำคัญ อย่างเช่น ดอกไม้ต้นจิ๋ว ขนาดกระถาง 1 นิ้ว ขายปลีกอยู่ 25-35 บาท ราคาส่งก็ตกอยู่ที่ 15 บาท ส่วนคนทำก็ได้ต้นละ 10 บาท(ไม่รวมกระถาง) พอพูดถึงคนดอกไม้ส่วนใหญ่ชอบแบบนี้เพราะไม่ต้องพิถีพิถัน ไม่ต้องโดนแก้ง่ายบ่อย ทำครั้งเดียวผ่าน วันๆคนที่ทำแบบนี้ทำได้วันละหลาบสิบต้น ซึ่งก็คุ้มค่าแรง 2. การทำดอกไม้"เหมือนจริง" คือ การทำดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ เน้นสีสรรให้ใกล้เคียงธรรมชาติ เขียนลวดลายให้ใกล้เคียงของจริง ไม่ต้องคลึงย้วยมาก คนที่ทำดอกไม้แบบนี้ต้องเป็นคนที่ใจเย็นพอสมควร และค่อนข้างปราณีต จะติดกลีบจะเพนท์ต้องค่อยระวัง มักใช้ดอกไม้ของจริงมาดูเป็นต้นแบบ(สำหรับคนที่เก่งแล้ว) ส่วนการตลาด ดอกไม้แบบนี้ก็เป็นที่นิยมมากพอสมควร แต่ราคาก็จะสูงกว่าแบบแรก 3.การทำดอกไม้แบบ "งานศิลปิน" คือ การทำดอกไม้ที่ละเอียดเรียบร้อยมาก แม้สีสรรบางครั้งอาจไม่เหมือนจริงก็ตาม แต่ดูแล้วสวยงามมาก เรียกว่า อาร์ทติสจริงๆ ดอกไม้แบบนี้มักทำแต่ชิ้นใหญ่ๆ ดินที่ใช้ก็ใช้ดินญี่ปุ่นผสมดินไทยเล็กน้อย สีที่ใช้ก็เน้นสีพิเศษ(สีซีรี่ส์ 2 ขึ้นไป) ส่วนราคาไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ออกจะสูงสักหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้ม สำหรับคนซื้อ งานแบบนี้มีคนทำจำนวนไม่มากนัก จากที่ได้แบ่งการทำดอกไม้ออกเป็นประเภทต่างๆข้างต้นนั้น ทำให้รู้ว่าแต่ละแบบก็มีความสวยของตัวเองไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่คนที่ทำดอกไม้นั้นก็จะมักทำดอกไม้เหมือนกับอาจารย์ที่ตนเองไปเรียกมา การทำดอกไม้ให้ความสวยเริ่มจาก 1. เลือกดินที่ใช้ให้เหมาะสมกับชิ้นงาน คนส่วนมักเข้าใจว่าการปั้นดอกไม้ดินนั้นต้องใช้ดินญี่ปุ่นผสมกับดินไทย แต่ความจริงแล้ว ทั้งดินญี่ปุ่นและดินไทยก็มีคุณสมบัติ ข้อดีข้อเสียต่างกัน หากเราใช้ดินญี่ปุ่นทำทั้งหมดเลย ชิ้นออกมาก็อาจจะดูด้านๆ ซึ่งบางครั้งดอกไม้ของจริงชนิดนั้นดูมีความชุ่มชื้น เราก็ควรใช้ดินไทยผสมเป็นสัดส่วนที่มากกว่า และถ้าหากใช้ดินดินไทย100%บางครั้งอาจดูมันคล้ายพลาสติกเกินไป ทำให้เพนท์สียากขึ้น อยางการปั้นก้านหากเราใช้ดินไทยปั้นจะลื่นทำให้ปั้นง่ายกว่า 2. การใช้สีผสมดิน สีที่เราใช้ผสมดินนั้นมีอยู่หลายประเภทขึ้นกับความเคยชินของผู้ปั้น แต่ส่วนมักใช้สีน้ำมันมากกว่า เพราะสะดวกแก่การใช้งาน มีเฉดสีให้เลือกมากมาย กำหนดเป็นนับเบอร์ง่ายต่อการใช้งาน และเป็นสากล สำหรับผู้เริ่มปั้นก็ใช้สีซีรีย์ 1 ก่อน เพราะราคาที่ถูกกว่า นับเบอร์ก็มีให้เลือกมาก ส่วนที่ทำมานานแล้วก็เริ่มใช้สีที่มีซีรีย์ที่สูงขึ้น เพราะมีสีให้เลือกมากขึ้น แต่ราคาจะสูงกว่า หรือบางครั้งเราก็ไม่ควรยึดติดกับสียี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เพราะในบ้านเรามีสีน้ำยี่ห้ออื่นที่มีโทนสีที่แตกต่าง ทำให้การทำดอกไม้ดูหลากหลายยิ่งขึ้น 3. การเลือกพิมพ์ตัดและเรซินกดลาย พิมพ์ตัดเรซินกดลายที่มีขายอยู่ในบ้านเรามีออกมาอย่างมากมาย แต่ผู้ผลิตจริงๆก็มีอยู่ไม่กี่เจ้า ที่เป็นทั้งผู้ผลิตพิมพ์ตัดและเป็นคนทำต้นไม้ด้วย สาเหตุที่ผู้ผลิตพิมพ์ตัดต้องทำดอกไม้เป็นก็เพราะว่า บางคนมีฝีมือทางด้านช่างมาทำพิมพ์ขายก็ทำได้ แต่สัดส่วนของพิมพ์ตัดเมื่อกดดินจะประกอบเป็นดอกไม้อาจให้ลงตัว คือ กลีบปากอาจจะเล็กกว่าปีกข้างจนเกินไปบ้าง ใบไม่สมส่วนกับดอกบ้าง ดังนั้นหากเป็นไปได้เวลาเราไปซื้อพิมพ์ตัดก็ควรจะรู้ว่าร้านนั้นทำดอกไม้เป็นหรือไม่ สามารถอธิบายง่ายๆให้เราฟังได้ว่าพิมพ์แบบนี้ใช้อย่างไร ทำออกมาแล้วขนาดแค่ไหน ควรใช้สีอะไร
|